Author name: Thai Pianist

คุณแม่ไม่เคยเรียนดนตรี เรียนกับลูกได้ไหม? By  Thai Pianist, 22 June 2025 ได้สิ… และมันอาจเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในวัยเด็กของลูกเลยก็ได้ หลายคนมองว่า “การเรียนดนตรี” เป็นเรื่องของเด็กๆ ที่ต้องไปเรียนพิเศษ แต่รู้ไหมว่า… ถ้าแม่ลุกขึ้นมาเรียนกับลูกด้วย สิ่งที่ลูกจะได้มากกว่า “ทักษะ” คือ ความผูกพัน ความกล้า และความสุขร่วมกัน ✅ ทำไมแม่เรียนดนตรีกับลูกได้ (และควรลองด้วย!) แม่ไม่ต้องเก่ง แค่กล้าร้อง/เล่นไปพร้อมกันเด็กจะไม่รู้สึกว่าการฝึกเป็นเรื่องน่าเบื่อ เพราะ “แม่ก็หัดอยู่เหมือนกัน” มันสร้างความเท่าเทียม และลูกจะกล้าผิดกล้าถูก ดนตรีสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการสื่อสารเวลาเล่นดนตรีด้วยกันไม่มีใครต้องพูดเก่ง แค่เสียงก็สื่อใจได้แล้ว ทั้งลูกและแม่จะผ่อนคลายขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น แม้ในวันที่ไม่เข้าใจกันความทรงจำที่เล่นได้อีกนาน เพลงที่เคยเล่นด้วยกัน จะกลายเป็น “เพลงของเรา” ที่อยู่กับลูกไปนานแสนนาน เป็นความทรงจำที่มีเสียงดนตรีเป็นพื้นหลัง 🎶 เริ่มต้นอย่างไรดี? ลองหา คลาสออนไลน์ง่ายๆ ที่เล่นด้วยกันได้ เช่น อูคูเลเล่ เปียโน หรือร้องเพลง ใช้เวลาช่วงเย็นหรือวันหยุด เป็นเวลาแห่งดนตรี เช่น “เย็นนี้เราร้องเพลงด้วยกัน 15 […]

จะให้ลูกเรียนดนตรีดีไหม? คำถามยอดฮิตของพ่อแม่ยุค By  Thai Pianist, 16 June 2025 หากใครยังลังเล ลองมาอ่านบทความนี้กันค่ะ หลายครอบครัวลังเล…ลูกยังเล็กจะเข้าใจไหม? ถ้าเรียนแล้วไม่ชอบ จะเสียเงินเปล่าหรือเปล่า? กลัวเรียนแล้วเครียดมากกว่าได้พัฒนา แต่รู้ไหมว่า “ดนตรี” ไม่ใช่แค่เรื่องของเสียงเพราะๆ แต่มันคือการฝึกสมอง จิตใจ และทักษะหลายด้านในเวลาเดียวกัน! ทำไมการเรียนดนตรีจึงเป็นประโยชน์? ✅ เสริมพัฒนาการสมองดนตรีช่วยกระตุ้นสมองส่วนที่เกี่ยวกับภาษา ความจำ และคณิตศาสตร์ ✅ ฝึกวินัยและความอดทนการฝึกซ้อมเครื่องดนตรีต้องใช้ความสม่ำเสมอ เด็กจะเรียนรู้ว่าความสำเร็จไม่มาในวันเดียว ✅ ระบายอารมณ์และพัฒนาความมั่นใจดนตรีเป็นช่องทางให้เด็กได้แสดงออก ได้ระบายความรู้สึกในแบบที่คำพูดอาจไม่พอ ✅ เสริมความคิดสร้างสรรค์การเรียนดนตรี โดยเฉพาะการเล่นแบบ improvisation หรือแต่งเพลงเอง ช่วยให้เด็กคิดนอกกรอบ แล้วถ้าลูกไม่ชอบดนตรีล่ะ? นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ค่ะ เพราะการได้ลอง คือก้าวแรกของการค้นหาตัวเอง แค่เราเปิดโอกาสให้ลูกได้ “ลอง” อย่างมีคุณภาพ ก็เท่ากับเราส่งเสริมให้เขาเติบโตเป็นคนที่รู้จักตัวเองได้เร็วขึ้น สรุปคือ อย่าให้ “กลัวว่าเขาจะไม่ชอบ” มาหยุดการเปิดโลกบางครั้งลูกอาจตกหลุมรักเสียงเปียโนโดยที่เราไม่รู้ หรือบางทีเขาอาจไม่ได้ชอบ แต่กลับได้ “ทักษะชีวิต” ติดตัวมากมาย ทางเลือกนี้ ไม่มีคำว่าเสียเวลา

วิธีการใช้เสียงเพลงช่วยให้เด็กแปรงฟันได้สนุกและมีวินัย By  Thai Pianist, 25 May 2025 เปลี่ยนการแปรงฟัน เป็นเวลาฮาเฮ เปลี่ยนช่วงเวลาแปรงฟันให้กลายเป็นกิจกรรมสุดสนุก ด้วยการใช้เพลงช่วยสร้างจังหวะและความเพลิดเพลิน พร้อมปลูกฝังวินัยให้เด็กแปรงฟันเป็นประจำอย่างมีความสุข 🪥✨ วิธีร้องเพลงเพื่อช่วยให้เด็กแปรงฟัน ใช้เพลงที่มีจังหวะง่ายและซ้ำ เช่น:🎵 แปรง แปรง แปรง แปรงฟันกันเถอะ ฟองฟู๊ ฟู ยิ้มวับวับ ฮา ฮา!เหตุผล: เด็กจะจดจำท่อนซ้ำได้ง่าย ร้องตามได้เร็ว และรู้สึกว่าสนุกเหมือนเล่นเกม ร้องพร้อม “ทำตามท่า” ตัวอย่าง:“แปรงซ้ายที ขวาที” → ทำท่ามือแปรงฟันไปซ้าย ขวา“กลั้วปากปิ๊ง!” → ทำท่ากลั้วปาก แล้วทำท่ายิ้มเหตุผล: เด็กชอบกิจกรรมที่ได้ขยับตัว + มีภาพชัดเจนจะเรียนรู้เร็วขึ้น ใช้เสียงสูงต่ำและอารมณ์เน้นคำว่า “แปรงงง!” หรือ “ยิ้มวับวับ!” ด้วยเสียงตื่นเต้นจบท่อนด้วยเสียงแบบ “ฮา ฮา!” หรือ “ไฮ้~” เพิ่มความขำเหตุผล: ช่วยให้เพลงมีสีสัน เด็กไม่เบื่อ และอยากฟังต่อ ใช้เป็นกิจวัตรเปิดเพลงนี้ ทุกครั้งที่ถึงเวลาแปรงฟัน

ซ้อมดนตรี แต่ไม่มีคนเช็กให้ ทำอย่างไรได้บ้าง? By  Thai Pianist, 16 May 2025 ซ้อมดนตรีให้เวิร์ก ต้องทำยังไง? ปัญหานี้พบได้บ่อยโดยเฉพาะในบ้านที่พ่อแม่ไม่ถนัดดนตรี เด็กจึงต้องซ้อมเองโดยไม่มีใครคอยฟังหรือให้คำแนะนำ ซึ่งอาจทำให้เขาซ้อมผิดซ้ำๆ หรือรู้สึกท้อเพราะไม่รู้ว่าที่ทำอยู่ “ดีพอหรือยัง” ซึ่งในบทความนี้จะเสนอวิธีการช่วยเด็ก “ซ้อมดนตรี” อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันค่ะ ใช้ “การอัดเสียง” หรือ “อัดวิดีโอ” ให้เด็กอัดเสียงตัวเองตอนซ้อม แล้วเปิดฟังซ้ำ ช่วยให้เขา “ฟังตัวเองอย่างคนอื่นฟัง” → เริ่มจับความผิดพลาดได้เอง คุณครูสามารถให้โจทย์ว่า “วันนี้อัดมาให้ฟัง 1 เพลง” แล้วให้ Feedback ทีหลังได้ ทำ “Check List การซ้อม” แบบเข้าใจง่าย เช่น: เล่นครบทุกห้อง ไม่หยุดกลางเพลง ร้องเสียงชัดในประโยคนี้เด็กจะรู้ว่าเป้าหมายการซ้อมคืออะไร ไม่ใช่แค่ “เล่นให้จบ” เปิดเสียงต้นฉบับให้ฟังเทียบ เปิดคลิปที่ร้องหรือเล่นเพลงนั้นอย่างถูกต้องให้ฟัง แล้วให้เด็กลองร้อง/เล่นตามฝึกหูให้แยกได้ว่า “เสียงเราเหมือน/ต่างจากตัวอย่างตรงไหนบ้าง” ใช้แอปฝึกดนตรี เช่น:

เด็กไม่กล้าเปล่งเสียง ตอนเรียนร้องเพลง ทำอย่างไรดี? By  Thai Pianist, 9 May 2025 กล้าเปล่งเสียงในจังหวะของตัวเอง เด็กที่เรียนร้องเพลงแต่ไม่กล้าออกเสียงดังๆ เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยมากค่ะ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น สาเหตุหลักๆ มักมาจากความไม่มั่นใจ กลัวผิด หรือไม่คุ้นชินกับการ “ใช้เสียงตัวเองแบบเต็มที่” ต่อหน้าคนอื่น วิธีช่วยสามารถทำได้หลายแนวทาง ดังนี้ค่ะ เริ่มจาก “การเล่นเสียง” แทนการร้องจริง ให้เด็กเล่นเกมเสียง เช่น ทำเสียงสัตว์, เสียงรถ, เสียงหัวเราะแบบต่างๆ ลดแรงกดดันเรื่อง “ต้องร้องให้เพราะ” เหลือแค่ “กล้าใช้เสียง” ให้ร้องแบบหันหลังให้ครู / หันออกจากคนอื่น ลดความประหม่าโดยไม่ให้เห็นสายตาผู้ฟัง เด็กบางคนจะร้องได้ดังกว่าทันทีเมื่อรู้ว่าไม่มีใครจ้องอยู่ ให้ร้องพร้อมกับเสียงเพลง (Backing Track) ดังนิดนึง ช่วยให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ “ลอยเด่น” คนเดียว เสียงดนตรีช่วยกลบความประหม่า ใช้ “ไมโครโฟนของเล่น” หรือไมค์จริง เด็กจะรู้สึกว่าสนุก เหมือนเป็นนักร้องจริง → กล้าร้องมากขึ้น ยังช่วยฝึกการควบคุมเสียงพูดผ่านไมค์ด้วย ฝึกในกลุ่มเล็ก

How To ใช้ดนตรีเพื่อพัฒนาเด็กเล็ก By  Thai Pianist, 2 May 2025 โตไปกับเสียงดนตรี ค้นพบวิธีง่าย ๆ และได้ผลในการใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือเสริมพัฒนาการของเด็กเล็ก ทั้งในด้านภาษา อารมณ์ และการเรียนรู้ ดนตรีสามารถช่วยสร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่กับลูก และส่งเสริมพัฒนาการอย่างรอบด้านได้อย่างเป็นธรรมชาติ ใช้เพลงที่มีคำซ้ำๆ และจังหวะชัดเจนเช่น: เพลง “ABC Song”, “Twinkle Twinkle Little Star” หรือเพลงไทยเช่น “จับปูดำ”📚 ช่วยพัฒนา: ภาษา, ความจำ, การเรียนรู้คำศัพท์ เล่นดนตรีประกอบท่าทางเช่น: เพลง “Head, Shoulders, Knees and Toes”, “ช้าง ช้าง ช้าง”🤸‍♂️ ช่วยพัฒนา: กล้ามเนื้อมัดใหญ่, การประสานงานระหว่างร่างกายและสมอง เปิดเพลงเบาๆ ระหว่างทำกิจกรรมประจำวันเช่น: ตอนกินข้าว, อาบน้ำ, หรือก่อนนอน🧘 ช่วยพัฒนา: ความเคยชินในกิจวัตร, ความสงบ, การจัดการอารมณ์

คุณแม่มีลูกเล็ก…ควรใส่ใจเรื่องอะไรบ้าง? By  Thai Pianist, 22 April 2025 ข้อควรทำเพื่อให้ลูกเติบโตอย่างแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ หากแม่มีลูกเล็ก (เช่น วัยแรกเกิดจนถึงประมาณ 5 ขวบ) มีหลายข้อควรทำเพื่อให้ลูกเติบโตอย่างแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจนะ นี่คือข้อควรทำหลักๆ ที่สำคัญ 💗 ด้านความรักและความผูกพัน กอดลูกบ่อยๆ พูดคุยด้วยเสียงอ่อนโยน เพื่อให้ลูกรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เล่นกับลูก เพื่อกระตุ้นพัฒนาการ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ตอบสนองเมื่อร้องไห้หรือเรียกหา ลูกจะเรียนรู้ว่าตนมีคุณค่า และโลกนี้ปลอดภัย 🍼 ด้านสุขภาพและโภชนาการ เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อย่างน้อย 6 เดือนแรก ถ้าเป็นไปได้ เพราะดีต่อภูมิคุ้มกัน เริ่มอาหารเสริมเมื่อครบ 6 เดือน และเลือกอาหารหลากหลายตามวัย พาลูกไปรับวัคซีนตามกำหนด และตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ 🧠 ด้านพัฒนาการ กระตุ้นพัฒนาการด้วยการเล่น พูด อ่านหนังสือ เช่น อ่านนิทาน เล่นบล็อก ของเล่นเสริมทักษะ ให้ลูกได้ลองทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง เช่น หยิบของเอง

หากแม่รู้สึกผิดที่บังคับให้ลูกเรียน จะทำอย่างไรดี? By  Thai Pianist, 15 April 2025 การให้อภัย คือของขวัญสำหรับทุกคน บ่อยครั้งที่คุณแม่ๆ มักรู้สึกผิด ที่ต้องคอยบังคับให้ลูกๆ เรียน เพื่ออนาคตของพวกเขา ควรทำอย่างไรดี?  ยอมรับความรู้สึกตัวเองได้ ไม่ผิดเลยการรู้สึกผิดเกิดจากความรักและความตั้งใจดี แม่ไม่ผิดที่หวังให้ลูกมีอนาคตดีนะ แค่ตอนนี้แม่อาจค้นพบว่า “วิธีการ” มันอาจแข็งไปหน่อย→ การรู้สึกผิดไม่ใช่สิ่งแย่ แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าใจและปรับความสัมพันธ์กับลูกให้ดีขึ้นได้มากเลย พูดกับลูกด้วยใจ เปิดใจให้กันลองหาเวลาคุยกับลูกแบบไม่ตัดสิน เช่น🗣️ “แม่รู้ว่าแม่เคยกดดันลูกเยอะ เพราะแม่แค่อยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี แต่ตอนนี้แม่อยากรู้ว่าลูกรู้สึกยังไงกับสิ่งที่เรียนอยู่”→ เด็กๆ อาจไม่ได้ต้องการให้เราถูก 100% แค่เขาได้รู้ว่าแม่รับฟัง ก็ช่วยเปิดใจลูกได้เยอะเลย ตั้งเป้าหมายร่วมกันใหม่ถ้าลูกไม่ชอบสิ่งที่เรียนอยู่ ลองคุยว่า สิ่งที่ลูกสนใจคืออะไร? เราจะหาจุดกึ่งกลางระหว่าง “ความฝันของแม่” และ “ความชอบของลูก” ได้ยังไง?→ เช่น อาจยังเรียนอยู่แต่ลดแรงกดดัน หรือให้เวลาทดลองสิ่งใหม่ๆ ร่วมกัน ให้อภัยตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่แม่ทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนั้นแล้วนะ และการที่แม่รู้สึกแบบนี้ แสดงว่าแม่พร้อมจะปรับตัวเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูก→ การให้อภัยตัวเอง คือของขวัญที่แม่ควรให้ตัวเอง ❤️ สนใจเรียนดนตรีกับ