1) New Age (นิวเอจ)
แนวดนตรีที่ส่วนใหญ่ใช้เปียโนหรือคีย์บอร์ดบรรเลง จะใช้ดนตรีในการบรรยายธรรมชาติ เช่น ภูเขา แม่น้ำ ทะเล ท้องฟ้า ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเป็นเรื่องเดียวกัน มีรากฐานมาจากดนตรีคลาสสิก ดนตรีประเภทนี้จะฟังแล้วสบาย รู้สึกผ่อนคลาย อาจไม่มีจังหวะหรือทำนองที่หนักแน่นชัดเจน

2) Electro Pop (อิเล็คโทร ป็อป)
ดนตรีในยุคทศวรรษที่ 80 ที่ลดจำนวนนักดนตรีและผู้เล่นดนตรีให้เหลือน้อยที่สุด แต่ใช้ซินธิไซเซอร์ หรือคอมพิวเตอร์ให้เสียงดนตรีออกแทนนักดนตรี บางครั้งมีผู้เล่นเพียงคนเดียว แต่เสียงดนตรีเหมือนกับบรรเลงออกมาทั้งวง เพลงประเภทนี้มักจะมีจังหวะที่เร้าใจ และเหมาะกับการเต้นรำ

3) Bubble Gum (บับเบิ้ลกัม)
ดนตรีประเภทที่มีทำนองง่ายๆ สนุกสนาน ให้ความรู้สึกสดใสคล้ายกับการเคี้ยวหมากฝรั่ง มีต้นกำเนิดมาจาก 2 ทาง คือ เพลงที่เด็กๆ นิยมร้อง หรือเพลงกล่อมเด็ก ดนตรีประเภทนี้มักจะได้รับความนิยมเฉพาะในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น แต่คนรุ่นใหญ่ มักจะไม่ให้ความสนใจมากนัก เพราะคิดว่าเพลงประเภทนี้ขาดความเป็นศิลปะ เป็นที่นิยมและเสื่อมสลายไปอย่างรวดเร็ว คล้ายกับการเคี้ยวหมากฝรั่งที่เมื่อหมดรสชาติ ก็จะต้องคายทิ้งไป

4) Blue (บลูส์)
ดนตรีนี้ถือกำเนิดขึ้นกลางไร่ฝ้าย ณ ดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ เกิดจากความทุกข์ยากของคนงานผิวดำ ที่ถูกนำตัวจากแอฟริกามาเป็นทาสทำงานในไร่ฝ้าย ในเวลาค่ำคืนพวกเขามักจะจับกลุ่มกันร้องเพลงโดยใช้กีตาร์โปร่งเก่าๆ เสียงร้องแหลมสูงของพวกเขาแสดงถึงความกดดัน อัดอั้น บทเพลงมักเกี่ยวกับเรื่องการเอารัดเอาเปรียบของเจ้าของไร่ การโหยหาบ้านเกิด การสรรเสริญพระเจ้า ดนตรีแนวบลูส์จึงถือเป็นมรดกที่ล้ำค่ายิ่งของชนผิวดำ

5) Psychedelic Rock (ไซเคดีลิค ร็อค)
ดนตรีแนวฉีกกฎเกณฑ์ของสังคมและมักเกี่ยวข้องกับยาเสพติด (Hippy) สาเหตุมาจากศิลปินที่แต่งเพลง มักจะใช้ยาเสพติดในการสร้างอารมณ์ เมื่อได้อยู่ในภวังค์ของจินตนาการก็จะสามารถแต่งเป็นบทเพลงออกมา เพลงส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ การเมือง สังคม เรื่องเพศ ในมุมมองที่แตกต่างออกไป จุดกำเนิดแนวเพลงนี้มาจากการที่วัยรุ่นในประเทศสหรัฐอเมริกา ชุมนุนต่อต้านการเข้าร่วมสงครามในปี ค.ศ. 1967 จึงมีการใช้ยาเสพติดแสดงออกถึงเสรีภาพและแต่งออกมาเป็นบทเพลง

สนใจเรียนดนตรีกับ Thai Pianist สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 094-4539422 หรือ 089-6792835
หรือแอดเป็นเพื่อนกับเราได้ที่ Line: @thaipianist