ในปัจจุบันกีต้าร์มีอยู่หลายประเภท แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงกีต้าร์สไตล์อะคูสติกที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี นั่นก็คือกีต้าร์โปร่ง หรือกีต้าร์โฟล์ค และกีต้าร์คลาสสิค
กีต้าร์ทั้ง 2 ชนิดนี้ มีรูปร่างที่คล้ายคลึงกันจนคนส่วนใหญ่คิดว่ามันคือกีต้าร์ชนิดเดียวกัน แต่ถ้าหากสังเกตดีๆ จะมีจุดที่เป็นความแตกต่างกันอยู่หลายจุด มาลองดูความแตกต่างของ กีต้าร์โปร่ง และ กีต้าร์คลาสสิค ที่มีลักษณะเด่นๆ สามารถสังเกตได้แบบง่ายๆ กันค่ะ
รูปทรงกีต้าร์ (คอกีต้าร์ และเฟร็ตกีต้าร์)
- กีต้าร์โปร่ง: คอจะมีความแคบและยาว เฟร็ตใกล้กัน ติดกันมากกว่า ทำให้การเคลื่อนย้ายนิ้วในการกดสายจะง่ายกว่า
- กีต้าร์คลาสสิค: คอจะมีความกว้าง และเฟร็ตมีระยะห่าง ทำให้ต้องยืดนิ้วในการกดสายกว้างกว่ากีต้าร์โปร่ง
สายกีต้าร์
- กีต้าร์โปร่ง: เป็นสายลวดทั้งหมด 6 สาย ทำให้เสียงมีความสดใส กังวาล
- กีต้าร์คลาสสิค: สาย 1-3 จะเป็นสายไนลอน หรือเส้นเอ็น ส่วนสาย 4-6 จะเป็นสายลวด ทำให้เสียงที่ได้จะมีความทุ้มและนุ่มนวล
ลักษณะรูปแบบการเล่น
- กีต้าร์โปร่ง: เหมาะกับการเล่นแบบ ตีคอร์ดกำกับจังหวะ หรือเกลาโน้ตคลอไปตามเพลง
- กีต้าร์คลาสสิค: เหมาะกับการเล่นแบบ FingerStyle ไล่โน้ต หรือเล่นเมโลดี้เพลงแนวคลาสสิค ซึ่งต้องอาศัยการอ่านโน้ต และมีความรู้ทฤษฎีดนตรีพื้นฐานในระดับหนึ่ง
และทั้งหมดนี้ ก็เป็นลักษณะของความแตกต่างคร่าวๆ ระหว่างกีต้าร์โปร่งและกีต้าร์คลาสสิค ใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกฝึกกีต้าร์แบบไหนดี ลองไปดูสไตล์และวิธีการเล่นของทั้งสองแบบ อาจจะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าใครยังลังเล เลือกไม่ได้ แนะนำให้ลองปรึกษา สอบถามกับครูผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะได้รับคำอธิบายที่ละเอียดและได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวผู้เรียนโดยตรง ก็จะทำให้เรามีความเข้าใจและตัดสินใจเลือกกีต้าร์ในแบบที่ตอบโจทย์เราได้ดีมากยิ่งขึ้น
สนใจเรียนกีต้าร์ เรียนดนตรีกับ Thai Pianist สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 094-4539422 หรือ 089-6792835
หรือแอดเป็นเพื่อนกับเราได้ที่ Line: @thaipianist